16 ตุลาคม, 2552

Plan for 2nd Semester

ในที่สุดก็เลือกได้ซะทีว่าจะเรียนวิชาอะไรบ้างในเทอม ๒ นี้
มาดูกันดีกว่าว่าเทอม ๒ นี้ฮัลเลย์จะเจออะไรบ้าง

(ส่วนข้างล่างนี้เป็นของเทอม 1 เอามาให้ดูเล่นๆ)


อืม ... แลดูไม่เยอะไม่น้อยไปเนอะ (บัณฑิตวิทยาลัยของมหิดลให้ลงได้อย่างต่ำ 9 หน่วย อย่างมาก 15 หน่วย)

ส่วนค่าหน่วยกิต ก็ถูกสำหรับคนไทย แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติ และ/หรือ ได้ทุนการศึกษา ค่าหน่วยกิตจะขึ้นเป็น 9000 ต่อหน่วยทันที - -!

จริงๆ ก็คิดมาได้พักหนึ่งแล้วล่ะว่าจะเรียนวิชาอะไรดี เพิ่งมาสรุปได้เอาวันนี้ เพราะวิชาของอ.เอเชีย (SCBI343 Natural Resource and Environmental Management - NREM) ไม่เปิดแล้ว ก็เลยลง SCID514 Animal Experimentation in Biomedical Research ได้เพิ่มอีก 1 วิชา

และในอนาคต (ในช่วงที่ให้ลงทะเบียนเพิ่มได้) ถ้าตารางของ Immunological Method กับ Animal Cell Culture Technique ออกมาโดยไม่ชนกับใคร ก็คงลงเรียนเพิ่มอีก กลายเป็น 14 หน่วยถ้วน

อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่าฮัลเลย์เรียนอะไร ทำไมวิชามันไม่ค่อยไปในแนวเดียวกันเท่าไหร่
มีทั้งโมเล็ก อิมมูน นิวโร และไหนจะวิชาแล็บ (วิชาที่มีค่า 1 หน่วยกิตทั้งหลาย) ทั้งหลายนั่นอีก

ก็ขอบอกว่า ฮัลเลย์เรียนหลักสูตรเวชศาสตร์ระดับโมเลกุล (ป.เอก ... แต่เพื่อนม.ปลายบางคนชอบบอกว่า "โทควบเอก" ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่)
ลองไปดู Curriculum ได้ที่ --> http://www.grad.mahidol.ac.th/grad/curriculum/view.php?lang=th&pid=273

จะเห็นว่า ด้วยความที่ชื่อหลักสูตรก็สุดแสนจะแฟนตาซี และมี Spectrum ของงานวิจัย/การเรียนที่โคตรจะกว้าง (แต่คนนอกฟังแล้วชอบคิดไปว่า "ทำยา" ... ก็ทำได้นะ ทำเรื่องการขนส่งยาโดยใช้อนุภาคนาโน หรือดูกลไกการออกฤทธิ์ของยา ดูเรื่องวัคซีน ฯลฯ ก็ทำได้หมดและกว้างมาก ... นี่แค่ "ทำยา" นะ จริงๆ ยังทำอย่างอื่นได้อีกแยะ) และด้วยความที่เป็นโครงการร่วม 5 คณะในมหิดล (บัณฑิตวิทยาัลัย คณะวิทย์ คณะแพทยศาสตร์รามาฯ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และคณะทันตแพทยศาสตร์) ทำให้วิชาบังคับ (ที่ไม่ใช่สัมมนาและวิทยานิพนธ์) เรียนหมดไปตั้งแต่เทอมหนึ่ง (ในขณะที่บางหลักสูตรบังคับให้เรียนไปจนถึงปี 2 นู่นนน) ที่เหลือจึงเป็นหน้าที่ของนักศึกษาที่ต้องไปหาวิชาอะไรก็ได้มาโปะให้ครบ 20 หน่วย โดยต้องเป็นวิชาที่ขึ้นต้นด้วยเลข 6 (ที่ไม่ใช่สัมมนาและวิทยานิพนธ์) อย่างน้อย 2 วิชา (สำหรับตรีต่อเอก)

และเนื่องด้วยหลักสูตรนี้คือเวชศาสตร์ระดับโมเลกุล (Molecular Medicine) ทำให้ต้องมีความรู้ที่ควรรู้ประดับหัวไว้ก่อนจบอย่างน้อย 2 เรื่อง (คิดเอาเองนะ) คือ Molecular Biology and Genetics (พูดรวมเป็น 1 เรื่อง) และ Medical Science/Biology
และด้วยความชอบ ความสนใจส่วนตัวด้าน Neuroscience อยู่แล้ว
เมื่อรวมกับวิชาที่เปิดในเทอม 2 แล้ว

ทำให้ได้ Cocktail ของวิชาเรียนเทอม 2 ออกมาหน้าตาอย่างงี้แล ...

ส่วนในอนาคต (เทอมต่อๆ ไป) ก็ว่าจะตามเก็บความรู้หมอๆ ให้เยอะขึ้น (สังเกตว่าปีการศึกษานี้เน้น Molec/Neuro/Cell ซะเยอะ) ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Microbiology/Infectious disease/Pathology/Metabolic disease/ฯลฯ

อ้อ หลักสูตรนี้จะให้โอกาสไปหมุนๆ ตามแล็บต่างๆ (Rotate lab) ประมาณ 3-4 แล็บ แล็บละประมาณ 1 เดือน เพื่อเก็บประสบการณ์ และเรียนรู้วัฒนธรรมในแล็บนั้นๆ
เท่าที่คิดๆ ไว้ก็เป็นแล็บ Neuro/Immuno/AFM (atomic force microscope) น่าจะประมาณนี้มั้ง
แต่ว่า แล็บ AFM นี่ก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ธีราพรจะยังรับเข้าไปทำอยู่รึเปล่า 555+
ตอนป.ตรีทำเค้าไว้แสบนัก - -"
Halley
ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข

ป.ล. จริงๆ ควรจะได้เขียนบล็อกเกี่ยวกับโลกร้อน 1 เรื่องในวันที่ 15 ตุลา แต่ก็ไม่ได้ทำ - -"

1 ความคิดเห็น:

  1. ฮัลเลย์ลองไปหาเรื่อง CYP450 อ่านดูนะ

    เริ่ดจริงอะไรจริง

    ตอบลบ