06 พฤษภาคม, 2555

นานเท่าไร ไม่มีลืม


วันนี้มีมีทติ้งกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นประถมยันม.ต้น นัดกันที่ร้านเหล้าตามประสา ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ไปหรอก แต่ก็อยากไปเจอเพื่อนๆ และอยากไปเจอคนคนนึงมากเป็นพิเศษ

แล้วก็ได้เจอจริงๆ ด้วย

เธอยังรูปร่างหน้าตาเหมือนเดิม ยังน่ารักเหมือนเดิมตั้งแต่ตอนป.1 จนถึงวันนี้ ยังยิ้มแล้วตาหยีเหมือนแมวเหมือนเดิม เห็นเธอแล้วทำให้ผมตื่นเต้นและอยากมองเธอต่อไปอีกนานๆ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

แม้การแต่งตัวจะเปลี่ยนไปตามวัย แต่สำหรับผม เธอก็ยังทำให้ผมรักได้เหมือนเดิม

ตอนแรกคิดว่าจะไม่ค่อยได้คุยกันซะแล้ว เพราะเรานั่งกันอยู่คนละมุมโต๊ะ ในร้านเหล้า หน้าเวที ตะโกนกรอกใส่หูกันยังไม่ค่อยจะได้ยินเลย เธอเป็นคนทักผมก่อน ถามผมว่าจะกินเหล้า ผมบอกอยากกินเหล้า แล้วเธอก็ชงเหล้าให้ผม

เป็นเหล้าที่ตั้งใจจิบมากเป็นพิเศษ เป็นเหล้าที่ "หวานขม" ได้สมกับความรู้สึกผมในตอนนั้นจริงๆ

สักพักเธอก็เดินเข้ามาหา มาถ่ายรูปด้วย มาชวนคุยนิดๆ หน่อยๆ ตามที่สถานการณ์และบรรยากาศจะเอื้ออำนวย เธอเอามือแตะบ่าผม (อาจจะเพื่อพยุงตัว?) อยู่หนึ่งถึงสองนาที

อยากเอื้อมมือไปทางด้านหลัง ไปจับมือเธอจัง แต่มันคงไม่ดี "ไม่ ไม่ ไม่ มันไม่ดี" ผมย้ำกับตัวเองอย่างนั้น

จ้องมองเธอเนิ่นนาน พลันนึกย้อนไปเมื่อสิบปีที่แล้ว ห้วงเวลาที่ผมเริ่มไม่มีสมาธิกับการเรียนเพราะเอาแต่นั่งมองเธอจากหลังห้องทุกคาบ ห้วงเวลาที่่รู้สึกโหวงๆ พิกลยามมีรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาใหม่มาคุยกับเธอ ชวนเธอคุย ชวนเธอเล่นบาส ห้วงเวลาที่ ผม แม้จะรู้ตัวว่าคงไม่มีหวัง แต่ก็ปรึกษาเพื่อนสนิทอยู่นานสองนานว่าจะเอื้อนเอ่ยคำในใจออกไปให้เธอรู้ดีไหม

แล้วก็นึกขำปนสมเพชตัวเองที่แกล้งเธอสารพัด พูดจาไม่ดีกับคนในครอบครัวของเธอ ทำตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย หึ ก็คงจะจีบติดอยู่หรอกนะ

น่าแปลก เวลาผ่านไปสิบปี ผมเจอผู้คนใหม่ๆ มากมาย แต่ก็ยังมิวายไม่สามารถทำให้เธอเป็นเพื่อนธรรมดาๆ เหมือนคนอื่นๆ ได้ เธอยังคงเป็นคน "พิเศษ" สำหรับผม ยังอยากคุย อยากถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ อยากรู้เรื่องแฟน อยากรู้ว่าเธอจะกลับบ้านยังไง เพราะบ้านเธอดูจะอยู่คนละทางกับคนอื่นๆ (แน่ล่ะ ผมยังจำวันที่ผมซื้อตุ๊กตาหมีแล้วเอาไปให้เธอถึงบ้านได้)

ยังนึกไปถึงว่า ในวันที่เธอได้สวมชุดเจ้าสาวเดินขึ้นเวทีไปกับคู่ชีวิต ผมจะยิ้มและร่วมแสดงความยินดีไปกับเธอได้อย่างเต็มที่ หรือผมจะยิ้มทั้งน้ำตา ที่ได้เห็นเธอมีความสุข และได้รู้ว่าชาตินี้เราคงไม่ใช่คู่กัน ได้รู้ว่าผมไม่ใช่ชายที่เธอตามหาไปพร้อมๆ กัน

จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเรียกว่า "รัก" ได้หรือเปล่า เพราะล่วงเลยมาจนเบญจเพสแล้ว ผมก็ยังไม่มีแฟน ยังไม่เคยได้สัมผัสประสบการณ์ อารมณ์ ความรู้สึกของ "ความรักหวานซึ้ง" แบบคนที่เป็นแฟนเขามีกัน ความรู้สึกเท่าที่ผมบอกได้อย่างมั่นใจคือ ผมอยากเห็นเธอมีความสุข มากกว่าที่ผมอยากเห็นเพื่อนคนไหนๆ ของผมมีความสุข

น่าแปลก ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ต้องการจะให้เธอมาเป็นแฟน หรือตอบสนองต่อความรู้สึกที่ผมมีให้เธอ เราเคยคุยกันแล้ว และตกลงที่จะเป็นเพื่อนกัน และผมก็เข้าใจดี แต่ผมเองก็ยังไม่สามารถลบความรู้สึกที่ผมเคยมีให้เธอเมื่อสิบปีที่แล้วได้ นานเท่าไหร่ไม่รู้กว่าผมจะลบเลือนความรู้สึกเหล่านั้นไป ผมรู้แต่ว่าผมดีใจและมีความสุข ที่อย่างน้อยตอนนี้เราก็ได้เป็นเพื่อนกัน อย่างน้อยเราก็ยังเคยรู้จักกัน และอย่างน้อยที่การมีอยู่ของตัวเธอ ทำให้ผมมีคุณค่า มีความหมาย และเคยทำให้ผมรู้ว่าอยากตื่นนอนขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่ออะไร