05 กันยายน, 2552

เพื่อนเที่ยว

นานมาแล้วผมเคยพูดถึงเพื่อนกินเอาไว้
และรู้สึกดีใจที่มีเพื่อนกินดีๆ อย่างแก้วตา - เธอกินกับผมได้ทุกอย่าง และกินเยอะดี ทำให้ผมไม่นึกเกรงใจเวลาที่ต้องจ่ายตังค์แชร์ค่ากินกับเธอ

คราวนี้ ช่วงครึ่งหลังของชีวิตป.ตรี และจนถึงบัดเดี๋ยวนี้...ผมนึกอยากมีเพื่อนเที่ยวกับเค้าซะแล้วซี

คำว่า "เที่ยว" ในที่นี้ ก็ไม่พ้นเรื่องเที่ยวกลางคืนน่ะแหละ

จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเที่ยวนะ แต่ก็รู้สึกว่าเที่ยวน้อยไป ทั้งในเชิงคุณภาพ และปริมาณ

โอเค...มันไม่ดีหรอก ผิดศีล และการพาตัวเองไปในสถานที่อโคจรก็คงไม่ใช่เรื่องที่เป็นกุศลซะเท่าไหร่
แต่เรื่องหลายๆ เรื่องมันก็อยู่เหนือเหตุผลและศีลธรรม - ก็ Id มันทำงานข่มทับ Superego นี่นา...

เรื่องของเรื่องที่ทำให้เรื่องนี้มันเป็นประเด็นขึ้นมา คือ คืนหนึ่ง หลังจากกลับจากบ้านอาจารย์เอเชีย ช่วงที่ผมกับนุ้กกำลังเดินบนสะพานลอยรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ก็ผ่านร้าน Saxophone ซึ่งก็เป็นผับดีๆ นี่เองแหละ

นุ้กชวนผมเป็นครั้งที่สอง (ซึ่งไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวจำได้รึเปล่าว่านี่คืิอครั้งที่สอง) ว่าให้ลองมานั่งชิลล์ๆ ฟังเพลงแนวแจ๊ส สกา เร็กเก้ที่ผมชอบดูบ้าง...

ก็อืม...ก็เห็นตัวเองชัดขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ผมยึดถืออยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้
ถ้าให้ไปคนเดียวก็คงต้องขอคิดดูก่อนนานๆ เพราะการไปเที่ยวผับ เทค ก็คือการทำสิ่งอกุศลดีๆ นี่เอง
การไปนั่งคนเดียวก็คงท้าทายดีสำหรับผม - ก็ถ้าต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกคนเดียว ผมจะเป็นคนละคนกับตอนที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ หรือคนที่สนิทๆ โดยสิ้นเชิง จะเป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ขี้อาย และไม่กล้าทำอะไรแตกต่างอย่างถึงที่สุด
ถ้าไปคนเดียว...จะทำยังไง สั่งอะไรบ้าง นั่งตรงไหน ถ้าไม่อยากกินเหล้า สั่งเครื่องดื่มอย่างอื่นแทนได้มั้ย ถ้าจะกินเหล้า จะสั่งยังไง มีอะไรบ้าง แล้วจะกินหมดมั้ย มีกับข้าวมั้ย มีอะไรบ้าง...มะเอา ไม่กล้าถาม กลัวโดนดูถูก โดนว่า

ก็ทำให้...ไม่กล้าที่จะไปคนเดียว
แต่ตอนนี้ก็มีความคิดที่จะไปคนเดียวขึ้นมาบ้างแล้วนะ...แต่...

การไปกับเพื่อนก็สนุกกว่าอยู่ดี อย่างน้อยก็ได้มีเพื่อนคุย และได้แสดงออกความเป็น "ฮัลเลย์" มากกว่าที่จะต้องเก็บกดเอาไว้
และที่สำคัญ ผมเองก็ให้ค่า "การไปเที่ยวด้วยกัน" ไว้ค่อนข้างสูง เพราะเห็นแล้วว่า สำหรับกลุ่มคนที่จะไปเที่ยวด้วยกัน ไม่ใช่ชวน "ใครก็ได้" แต่จะชวนกันเฉพาะคนในกลุ่มจริงๆ
นั่นคือ ถ้าผมถูกชวน แปลว่าผมถูกนับรวมไปอยู่ในกลุ่มด้วย - นั่นแหละคือความคาดหวังสูงสุด

นั่นก็ทำให้หลายๆ ครั้งที่รู้ว่าเพื่อนๆ ไปดื่มกินกันโดยไม่ได้ชวน ผมจะมีความรู้สึก "น้อยใจ" ตามมาเสมอ
ไม่ใช่การน้อยใจโดยไปโทษคนอื่น - ก็เหมือนทุกที - คือโทษตัวเอง

เพราะเข้าใจดีว่า แต่ละคนก็มีเหตุผล มีที่มาที่ไปของแต่ละคนจริงๆ

ดังนั้น ประเด็นที่น้อยใจ มันคือการน้อยใจตัวเองว่า ทำตัวไม่ดีพอที่จะเป็นที่ยอมรับของคนอื่น ทำตัวไม่กลมกลืนกับคนอื่นมากพอที่จะเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ และมากพอที่จะเป็นกลุ่มเดียวกันของใครต่อใคร

แม้จะต้องทำเรื่องที่อกุศลไปบ้าง แต่ก็ยอม ถ้ามันต้องแลกมากับการเป็นที่ยอมรับ

2 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าอย่างนั้นความหมายของอกุศลสำหรับฮัลเลย์คืออะไร?

    ตอบลบ
  2. ตอบนินนาท...ก็ อืม...
    นั่นสิ! 555+

    พอจะตั้งใจตอบจริงๆ มันก็ไม่รู้จะนิยามมันยังไงซะงั้น อืม...

    ตอบลบ